ในวันหยุดผมได้ใช้เวลาในระหว่างเดินทางกลับได้ลองแวะเที่ยวจังหวัดอุทัยธานีครับ จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดที่ผมต้องการอยากไปเที่ยวนานแล้วแต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปซักทีครับ ครั้งนี้ผมเลยถือโอกาสลองไปและได้เก็บภาพบรรยากาศระหว่างการแวะเที่ยวครั้งนี้มาฝากเพื่อน ๆ ด้วยครับลองไปดูกันครับ
จุดแรกถ้าเรามาถึงด้านซ้ายมือจะมีลานจอดรถครับจุดนี้จะมีบ้านทรงไทยริมน้ำครับตรงริมน้ำจะเป็นวังปลาสำหรับไว้ให้อาหารปลาและถ่ายรูปเล่นได้ครับบอกตามตรงที่ผมมาโซนนี้เพราะผมหลงครับจริง ๆ ตั้งใจจะเข้าไปโบสถ์ที่เป็นแก้วเลยแต่ดันมาผิดที่ครับเลยแวะถ่ายรูปเล่นและไหว้พระในโบสถ์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ในจุดนี้แก้เขินไปก่อนครับ ฮ่าฮ่า
ใกล้ ๆ กันนั้นจะมีมณฑปแก้วครับเป็ฯมณฑปที่ตกแต่งไปด้วยแผ่นแก้วหลาย ๆ แผ่นติดผนังภายในนั้นระยิบไปด้วยการสะท้อนของแก้วครับ สวยดีไปอีกแบบ
ในมณฑปนี้จะมีรูปปั้นของพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อยู่ภายในครับ
ก่อนออกจากจุดจอดรถตรงนี้ผมหันมาเจอตึกทรงไทยรูปทรงสะดุดตาแต่ผมไม่รู้ว่ามันคือตึกอะไรแต่ด้วยความรีบผมก็แอบไปถ่ายรูปเก็บมาฝากให้เพื่อน ๆ ไดชมกันครับเพราะจากที่ผมได้เข้ามาผิดผมได้สอบถามคนแถวนั้นว่าวัดท่าซุงที่โบสถ์เป็นแก้วไปทางไหนทางชาวบ้านแถวนั้นเขาเลยบอกผมว่าตรงไปฝั่งตรงข้ามถนนอีกฝั่งหนึ่งและโบสถ์จะเปิดตอนบ่าย 2 ครับซึ่งตอนที่ผมมาถึงที่นี่นั้นมันตอนเที่ยงครึ่งครับซึ่งผมต้องเดินถ่ายรูปเล่นเพื่อรอจะเข้าไปโบสถ์ต่อไปก่อน
จริง ๆ ระหว่างทางไปยังโบสถ์แก้วของวัดท่าซุงนั้นยังมีจุดที่ถ่ายรูปสวย ๆ อีกจุดหนึ่งครับตรงนี้ส่วนตัวผมคิดว่ามีจุดให้ถ่ายรูปสวย ๆ เล่นเยอะมากครับระหว่างที่ผมจอดถ่ายรูปเล่นก็มีคนมาใช้เป็นสถานที่ถ่าย Pre weding กันหลายคู่มากครับแต่ด้วยผมมีเวลาไม่มากนักจึกืำให้ผมถ่ายรูปมาได้แค่บางมุมแต่จริง ๆ ถ้าจากรูปที่ผมถ่ายนั้นมันยังมีอีกหลาย ๆ มุมเลยครับที่น่าถ่ายรูปเล่นถ้าใครตั้งใจจะไปโบสถ์แก้ววัดท่าซุงอย่างเดียวนั้นผมแนะนำให้ลองแวะจุดนี้ดูครับรับลอง Mem เต็มครับ
ต่อไปคือจุดที่ผมตั้งใจจะมาครับนั้นคือโบสถ์แก้วที่เป็นสัญลักษณ์ของวัดท่าซุงที่เป็นจุดดึงดูดให้ทุกคนต้องมาที่นี่ครับ
ภายในโบสถ์จะมีร่างของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน” หรือ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำบรรจุอยู่ในโรงแก้วเพื่อให้ผู้คนที่มาที่นี่เข้ามาสักการะสังขานท่ทานครับ
ในวันที่ผมไปนั้นเนื่องจากเป็นวันหยุดติดต่อยาว 4 วันครับทำให้คนเยอะมาก ๆ แต่ทางวัดก็มีระบบจัดการดีมาก ๆ ครับในสถานะการโควิดด้วยทางวัดมีการจัดระเบียบคนเข้าในโบสถ์แก้วเป็นรอบ ๆ ครับโดยแบ่งจำนวนรอบละ 100 คนเพื่อเข้าไปเยียมชมทำให้เป็นระเบียบดีมาก ๆ ครับ
หลังจากเที่ยววัดเสร็จ ก็หิวววมาก ผมเลยลองหาร้านกินข้าวใกล้ ๆ แถวนั้นดูครับจริง ๆ แล้วร้านใกล้ ๆ วัดหรือรอบ ๆ วัดก็มีอยู่หลายร้านนะครับใกล้ ๆ วัดและมีชื่อเสียงที่คนนิยมแวะก็จะชื่อร้านศาลาโค้ก ครับแต่ถ้าไปตอนกลาวันมันจะร้อน ๆ หน่อยนะครับแตรสชาติอาหารถือว่าขึ้นชื่อครับ แต่ผมไม่ได้แวะนะครับส่วนเพื่อน ๆ คนไหนอยากลองร้านนี้ลองดูรีวิว ร้านศาลาโค้ก ในเน็ตเพื่อตัดสินใจดูนะครับแต่ส่วนตัวผมมีโจทย์ในหัวว่าอยากได้ร้านที่บรรยากาศร่มรื่นหน่อย ผมเลยเลือกไปที่ ร้านบ้านนอกริมนา ครับร้านนี้จะห่างจากวัดประมาณ 10 กิโลนิด ๆ ครับ
ร้านนี้จะอยู่กลางทุ่งเลยครับวิวรอบ ๆ จะล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาครับ
มีที่จอดรถกว้างขวางรองรับรถลูกค้าจำนวนมากครับ
ผมสอบถามพนักงานร้านเขาบอกว่ากลางคืนจะมีการแสดงดนตรีสดครับ ร้านนี้ยิ่งเย็นคนยิ่งเยอะครับ ด้านหลังร้านจะเป็นร้านกาแฟ จะชื่อร้านว่า ริมนาคาเฟ่ ด้วยครับมีวิวทุ่งนาให้ถ่ายรูปเล่นด้วยแต่ตอนผมไปมันเป็นเวลาเย็นแล้วผมจึงไม่ได้ไปถ่ายรูปร้านกาแฟด้านหลังครับเพราะเหมือนวันนั้นร้านกาแฟปิด
วันไปผมสั่งอาหารมาประมาณ 4 อย่างครับจ่ายไปประมาณ 500 กว่าบาทครับถ้าเทียบรสชาติอาหารกับราคาอาหารนั้นผมว่าราคาค่อนข้างถูกดีครับ
ถ้าใครได้ไปเที่ยววัดท่าซุงแล้วอยากหาข้อมูลก่อนไปถ้ามาเจอบทความนี้ของผมก็น่าจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นได้ระดับหนึ่งครับ จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะครับของกินก็เยอะมากครับยังมีอีกหลาย ๆ ร้านที่ผมยังอยากไปลองแล้วยังไม่ได้ไปอีกมากมายครับ ถ้ามีโอกาสไปอีกผมจะนำมาลงเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้นะครับ