วันศุกร์, 17 พฤษภาคม 2567

พระพุทธชินราช พระพุทธชินสี พระศรีศาสดา พระนางพญา พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกสองแคว

Phra-Buddha-Chinnarat

ถ้าพูดถึงพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของคนพิษณุโลกแล้วทุกคนที่เคยมากราบไหว้คงจะทราบดีถึงความงดงามขององค์พระพุทธรูปปรางค์มารวิชัยที่ถูกขนานนามว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามและสวยที่สุดในโลกครับด้วยองค์พระที่ปิดทองอร่ามไปทั้งองค์ทำให้แสงไฟภายในโบสถ์ที่ส่องไปยังองค์พระยิ่งทำให้ องค์พระพุทธชินราช นั้นยิ่งสุกเด่นงดงามไปอีกครับ

ในบทความนี้ในฐานะที่ผมเป็นคนพิษณุโลกเกิดและโตมาจากที่นี่ และเรียนที่นี่ตั้งแต่เด็กจนจบ ป.โท ผมเลยอยากจะเก็บภาพในมุมที่บางคนอาจจะยังไม่เคยเห็นองค์พระในมุมนี้ครับคือต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนชอบถ่ายรูปมากครับเลยอยากนำความสวยงามของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของคนพิดโลกนั้นมาให้ดูกันในแบบมุมมองของผมครับ รูปในบทความนี้นอกจาก พระพุทธชินราชแล้ว ยังมีพระพุทธรูปอีกหลาย ๆ องค์ครับที่ผมได้ไปถ่ายมา องค์พระพุทธรูปจะมีชื่อดังนี้ครับหรือดูชื่อจากใต้รูปภาพได้เลยครับ

ชื่อพระพุทธรูป

• พระพุทธชินราช
• พระพุทธชินสีห์
• พระศรีศาสดา
• สมเด็จนางพญาเรือนแก้ว

[modula id=”1776″]

พระพุทธชินราช (หลวงพ่อใหญ่ ชื่อที่คนพิด'โลกเรียก)

พระพุทธชินราช (หลวงพ่อใหญ่ ชื่อที่คนพิด’โลกเรียก) Processed with VSCO with a5 preset Processed with stamp

ประวัติการสร้างพระพุทธชินราช (หลวงพ่อใหญ่)

ในตำนานของพระพุทธชินราชนั้นมีประวัติเหล่าถึงปาฏิหารของการหล่อองค์พระไว้มากมายครับ แต่ในที่นี้ผมจะขอเล่าในแบบที่ผมเคยได้ยินมาโดยไม่ได้อ้างอิงตำนานต่าง ๆ ใน Internet ละกันนะครับ ในเรื่องเล่าบอกว่าพระพุทธชินราชเป็นพระที่หล่อยากสุด ๆ ในบรรดาพระที่หล่อในคราวเดียวกันครั้บในขณะนั้นพระที่ถูกสร้างพร้อมกันนั้นจะมี พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระพุทธชินราช ซึ่งองค์พระพุทธชินราชนั้นแบบว่าหล่อเททองกี่ครั้งกี่หนพอถึงเวลาแกะพิมพ์ออกองค์เพราะจะแตกทุกครั้งหรือไม่ก็จะเสียหายหลังจากการแกะพิมพ์เนื่องจากฟ้าผ่าลงมาที่องค์พระทุกครั้ง ทำให้ไม่สามารถสำเร็จได้เลยซักครั้งแต่อยู่มาวันหนึ่งอยู่ ๆ ก็มีคนนุ่งขาวห่มขาวมาช่วยเททองหล่อองค์พระทำให้การหล่อและการแกะพิมพ์ออกเป็นไปได้ด้วยดีแกะออกมาแล้วได้องค์พระที่สมบูรณ์งดงามและหลังจากนั้นผู้ถือศีลที่หุ่มขาวห่มขาวที่คนสมัยนั้นเรียกกันว่าชีปะขาวนั้นได้เดินหายไปซึ่งจุดที่ชีปะขาวได้หายตัวไปนั้นทุกวันนี้เป็นที่ตั้งของวัดตาปะขาวหายนั่นเองครับ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากไม่รู้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจหรืออะไรไม่แน่ใจแต่ทำให้องค์พระที่ได้จากการหล่อในครั้งนั้นงดงามตราตรึงใจผู้ผ่านมาพิษณุโลกและได้เข้ามาแวะกราบไหว้บูชานั้นต่างตกตะลึงในความงดงามขององค์พระพุทธชินราชทุกคนครับ

ประวัติความศักดิ์ของพระพุทธชินราช

มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้นในตอนที่ท่านได้เสด็จประภาษเมืองพิษณุโลกนั้นได้มาพบพระพุทธชินราชซึ่งท่านเห็นความงดงามขององค์พระแล้วรู้สึกหลงไหลในความงดงามขององค์พระและในขณะเดียวกันนั้นพระองค์ได้ต้องการหาพระพุทธรูปที่มีความงามเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม จึงต้องการอัญเชิญพระพุทธชินราชลงทางท่าน้ำหน้าวัดในปัจจุบันแต่สิ่งอัศจรรย์นั้นได้เกิดขึ้นคือมีคนเล่าว่าเหล่าทหารที่มาช่วยกันยกองค์เพราะเพื่อขึ้นแท่นไม้เพื่อจะเคลื่อนไปขึ้นแพที่เตรีมไว้ท่าน้ำหน้าวัดนั้นพยายามยกองค์พระยังไงก็ยกไม่ขึ้นรัชกาลที่ 5 ท่านได้ทรงสั่งทหารว่าให้พอแล้วไม่ต้องยกแล้วและได้ตรัสกับทหารที่ยกองค์พระว่า “หลวงพ่อท่านคงต้องการอยู่ที่นี่เพื่อเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ชาวพิษณุโลกต่อไป” ตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบันทำให้พระพุทธชินราชที่อยู่ในโบสถ์ของวัดใหญ่ยังคงเป็ฯองค์จริงตั้งแต่สมัยที่ถูกสร้างขึ้นจนถึงทุกวันนี้ครับ แต่ในวัดใหญ่นั้นนอกจากหลวงพ่อพระพุทธชินราชแล้วนั้นยังมีพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาอีก 2 องค์ที่อยู่ในโบสถ์ที่แบ่งเป็น 3 ทิศนั้นอีกนะครับแต่หลาย ๆ คนไม่ค่อยรู้จักคนส่วนมากจะไหว้แต่พระพุทธชินราชครับแนะนำว่าใครที่ไปที่วัดใหญ่แห่งนี้ลองเดินวนซ้ายดูนะครับจะเจอพระพุทธชินศีห์และพระศีศาสดาตามลำดับครับถ้าใครได้มาอย่าลืมแวะไหว้กันให้ครบนะครับ แต่พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดานั้น ปัจจุบันเหลือเพียงองค์จำลองเท่านั้นครับเพราะองค์จริงนั้นได้ถูกอัญเชิญไปประดิฐสถานที่วัดในกรุงเทพแล้วครับ
• พระพุทธชินสีห์ ปัจจุบันองค์จริงอยู่ที่ วัดบวรนิเวศวิหาร
• พระศรีศาสดา ปัจจุบันองค์จริงอยู่ที่ วัดบวรนิเวศวิหาร

พระพุทธชินสีห์

พระพุทธชินสีห์ Processed with VSCO with c1 preset Processed with stamp

พระศรีศาสดา

พระศรีศาสดา Processed with VSCO with c1 preset Processed with stamp

พระนางพญา

พระนางพญา Processed with VSCO with c1 preset Processed with stamp

Facebook Comments